TH | EN

5 สัญญาณ ที่บอกว่า คุณควรเปิดร้านอาหาร

คุณควรเปิดร้านอาหาร ใหม?ในยุคที่หลายๆคนก็มักจะได้ยินคำว่า Entrepreneurs หรือ เจ้าของกิจการ กันบ่อยครั้งมากขึ้น และได้ยินเรื่องราวผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว และ สามารถก่อตั้งกิจการขึ้นมาได้ แล้วคุณล่ะเหมาะที่จะทำกิจการประเภทไหน คุณอาจจะสนใจเรื่องอาหาร และ คุณมีแววที่จะเป็นเจ้าของร้านอาหารแค่ไหน มาลองดูกัน

1. คุณจะต้องเป็นคนที่ชอบทานอาหาร

แน่นอน สิ่งเริ่มต้นที่ได้มีความสุขกับการที่ได้รับประทานอาหาร คุณไม่ชอบที่จะทานอาหารซ้ำๆชอบที่จะลองค้นหาร้านใหม่ๆอยู่เสมอ คุณเชื่อหรือไม่ว่า คนจำนวนไม่น้อยเลยนะ ที่เค้าไม่ชอบที่จะลองอะไรใหม่ๆ เพราะว่าอาจจะกลัวไม่อร่อย กลัวแพง กลัวต่างๆนาๆ ฉะนั้นถ้าคุณเป็นคนที่ชอบชิมอาหารแปลกๆ หรือ ท่องเที่ยวเสาะหาร้านอาหารใหม่ๆอยู่เสมอ เพราะไอเดียร้านอาหารดีๆเกิดจากการท่องเที่ยว สิ่งนี้ทำให้คุณมีประสบการณ์ด้านรสชาติ ที่แตกต่างจากคนทั่วไปอยู่พอสมควรแล้ว

2. ชอบถอดสูตรอาหาร

คุณไม่ได้แค่ทานอาหาร แค่เพื่อลิ้มรส และตื้นตันกับรสชาติเฉยๆ แต่คุณยังขี้สงสัย ช่างเดา ช่างถาม และ ยังชอบที่จะคิดเสมอๆว่า รสชาติแบบนี้ เค้าใส่อะไร ทำไมถึงมีกลิ่นอย่างงี้ ของอย่างงี้บอกกันได้ยากนะ ส่วนใหญ่แล้วคุณก็ไม่ได้พูดออกมาให้กับใครฟังเท่าไหร่หรอกใช่ใหม แต่คุณ คิดอยู่ตลอดในเรื่องรสชาติ เช่น คุณทานอาหารแล้ว เจอรสเผ็ด คุณไม่ได้จบแค่ว่า ร้านนี้ใส่พริก แต่คุณคิดเลยไปถึงว่า ร้านนี้ใส่พริกชนิดไหน และ มีวิธีการเตรียมพริกพิเศษอย่างไร ถ้าคุณเป็นคนคิดไปจนถึงส่วนประกอบสูตรอาหารด้วยแล้วละก็ นี่เป็นอีกสิ่งที่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นว่า คุณอาจจะ ควรเปิดร้านอาหาร หรือ คุณ อาจจะมีพรสวรรค์ในด้านอาหาร

3. ชอบวิจารณ์รสชาติอาหาร

คนที่วิจารณ์รสชาติ มีสองแบบ คือ คนที่วิจารณ์แบบ อันนี้อร่อย อันนั้นหวานไป อันนู้นจืด เป็นการวิจารณ์แบบที่ไม่ลงลึก คนแบบนี้มีเยอะจริงๆแล้วไม่ได้เป็นเรื่องแปลก แต่ถ้าคุณคือคนที่ชอบวิจารณ์ไปถึงรายละเอียด เช่น อาหารจานนี้มีกลิ่นแรงมากไป อาจจะเป็นเพราะเวลาที่ใช้ในการปรุงนาน หรือ ใช้ไฟแรงมากกว่าอีกร้าน และ มีการเปรียบเทียบไปจนถึง เครื่องไม้เครื่องมือ ที่ใช้ปรุงอาหาร เช่น คุณอาจจะมองว่า ร้านนี้มีการตั้งค่าเครื่องทำกาแฟที่เหมาะสมกว่า จึงทำให้กาแฟมีรสชาอีกแบบ หรือ วิจารณ์ในเรื่องการใช้นำมัน และ อุณหภูมิในการปรุง การวิจารณ์รสชาติในลักษณะนี้ คุณ กำลังลงลึกไปถึง การปรุง วัตถุดิบ และ วิธี ต่างๆด้วย คุณอาจะไม่ทราบว่า คนทั่วไปเขาไม่ได้คิดกันถึงขั้นนี้ ถ้าคุณมาถึงข้อสามนี้แล้วยังตรงกับสิ่งที่คุณเป็นนี่บอกเลยว่า มีโอกาสสูงที่เดียว

“ไม่มีเชฟคนไหนหรอก ที่ไม่ชอบอยู่ในครัว”

4. เป็นคนชอบทำอาหาร

มาถึงข้อนี้ แสดงว่าคุณเริ่มถึงจุดที่ ทานเยอะแล้ว เริ่มมีข้อสงสัยในสูตรอาหารบ้างแล้ว และ เริ่มติดนิสัยในการวิจารณ์รสชาติอยู่บ่อยๆ สุดท้ายแล้วคุณก็จะเริ่ม มีข้อสงสัย ว่าทำไมอาหารถึงไม่ใช่แบบนั้น หรือแบบที่คุณคิด ก็จะเริ่มปรุงเองแล้ว เริ่มมีความสุขกับการเข้าครัว หลายๆคนพอมาถึงจุดนี้ ไม่ว่าจะชอบวิจารณ์หรืออย่างไร แต่พอเอาเข้าจริง แค่เจอน้ำมันกระเด็นก็กลัวแล้ว หรือ พอเริ่มทำแล้วพบว่าขั้นตอนในการทำนั้นใช้เวลานาน และ ไม่สนุก ก็จะหยุดแค่ เอาหล่ะ คุณอาจจะเป็นนักชิม แต่ไม่ใช่นักปรุง แต่ถ้าคุณค้นพบว่า คุณยังมีความสุขกับการอยู่ในครัว สนุกกับการลองผิดลองถูก จุดนี้ไม่ไกลแล้ว ที่คุณ ควรจะเปิดร้านอาหาร เพราะอย่างน้อย ตอนนี้คุณทราบแล้วว่า อาชีพการเป็น เชฟ หรือ การเป็นเจ้าของร้านอาหาร ก็จะเป็นอาชีพที่คุณทำแล้วมีความสุข ผมเชื่อว่างานอะไรก็ตามที่คุณทำแล้วมีความสุข มีความเป็นตัวตนของคุณ คือสิ่งสำคัญมากๆ ไม่มีบาริสต้าคนไหนหรอก ที่ไม่ชอบยืนอยู่หลังเครื่องเอสเพรสโซ่

5. อาหารที่คุณทำ “อร่อย”

ข้อนี้ถือว่าเป็นข้อที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะว่า การที่คุณชอบทำอาหาร และ มีความสุขก็ไม่ได้แปลว่า ลูกค้าของคุณจะทานแล้วมีความสุขไปกับคุณด้วย เข้าใจใช่ใหมครับ(ถ้ามันไม่อร่อย 555) แต่ถ้าคุณพบว่าอาหารที่คุณทำ อร่อยกว่าประสบการณ์ของคุณที่เคยได้ชิมมาเลยล่ะก็ โอกาษที่คุณจะประสบความสำเร็จในการทำร้านอาหาร นั้นมีสูงมากๆ บางคนอาจจะมีข้อที่ 5 นี้ แต่ไม่มีข้อ 4 ก็จะเป็นเรื่องที่ลำบาก บางคนทำอาหารเก่ง และ อร่อย แต่พบว่าตัวเองไม่ได้มีความสุขกับการที่จะอยู่ในครัวนานๆ การทำอาหารอาจจะเป็นได้แค่งานอดิเรกของคุณ

ถ้าคุณอ่านมาถึงจุดนี้แล้ว พบว่าคุณมีทั้ง 5 ข้อ รวมกันมั่นใจได้เลยว่าคุณมาถูกทางแล้วครับ เพราะขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือประสบการณ์ คุณมีพรสวรรค์ทางด้านนี้ คุณควรเปิดร้านอาหาร หรือ ถ้าคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารอยู่แล้ว และอ่านบทความนี้ผมก็ค่อนข้างมันใจนะว่าคุณจะมีครบทุกข้อในนี้อย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่ใช่ก็ Comment แนะนำกันได้นะครับ เพราะว่าทางผู้เขียนเองก็อยากที่จะทราบความเห็นจากผู้อ่านที่เป็นเจ้าของร้านอาหารเช่นกัน

สุดท้ายแล้ว ถ้าคุณรู้จักใครที่กำลังเบื่องานประจำที่ทำอยู่ หรือ กำลังคิดที่จะทำอาชีพเสริม และ ยังไม่แน่ว่ามีความสนใจทางด้านไหน ฝากแชร์บทความนี้ให้อ่านด้วยนะครับ 

Comments are closed.